.

.

.
เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเต็มตัว ความเหงาก็เข้ามาปกคลุม เวลาช่วงวันหยุดจะไปไหนมาไหนคนก็เยอะ นี่จึงเป็นทริปหลังลาออกจากกงานของเรา.
ทริปนี้ใช้เวลา 3 - 7 สิงหาคม  เริ่มต้นการเดินทางจากกรุงเทพ-หาดใหญ่-ปีนัง-หาดใหญ่-กรุงเทพ.
.
﹌ ✎พร้อมแล้วก็เตรียมหยิบกล้องและร่วมเดินทางไปกับพวกเรานะคะ.

เราเดินทางจากกรุงเทพ-หาดใหญ่ โดยสายการบินนกแอร์ ณ สนามบินดอนเมือง ในช่วงเวลา 9 โมงเช้า วันนี้วันธรรมดาสนามบินก็ยังคึกคักเหมือนเดิม


นกเริ่มเหินฟ้าออกไปได้สักพัก ความงดงามจากก้อนเมฆก็ชวนดึงดูดให้เราหลับไม่ลง

ท้องฟ้าย่อมสวยงามเสมอคำพูดนี้ใช้ได้จริงๆ☁.｡.


ของว่างบนนกแอร์เป็นของว่างจากป้าแอนตี้แอน กินไปดูวิวเมฆไป ดี๊ดี

บินมาได้ซักพักก็เหลือบไปเห็นทะเลสีฟ้ามรกตสวยมาก

เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าเราใกล้ถึงหาดใหญ่แล้ว ♦ ◊ ◦ ☼

10:55 น. ตามเวลาBoarding Pass เครื่องร่อนลงจอดอย่างปลอดภัย

ผิดคาดท้องฟ้าที่หาดใหญ่แจ่มใสมาก ไม่มีเมฆฝนแต่อย่างใด หลังจากนั้นเราก็เดินออกจากสนามบินเพื่อเดินไปขึ้นสองแถวสีน้ำเงินเพื่อเดินทางเข้าเมืองไปลงตลาดกิมหยง ราคาค่าโดยคนละ 30 บาท ลงจากสนามบินท้องฟ้าแจ่มใส แพรบบเดียว

ฝนก็ตกลงอย่างหนักหน่วง..สวัสดีฝนหาดใหญ่ 
จุดหมายต่อไปคือการ Check in

ที่ เก็ท เกสท์เฮาท์ หาดใหญ่ ข้างวัดถาวรวรารามในราคา 450 บาท

ภายในห้องเป็นเตียงสองชั้นมีทีวีและแอร์ห้องน้ำในตัวพร้อมโต๊ะเขียนหนังสือ

โดยรวมถือว่าดีเลยทีเดียว 
 
หลังจากเก็บข้าวของพักผ่อนเรียบร้อยแล้ว เราตัดสินใจเดินทางไปแลกเงินที่ Kin-Exchange พี่เจ้าของใจดีมาก หลังจากแลกเงินเสร็จ พวกเราตัดสินใจว่าจะไปจองตั๋วรถตู้ไปปีนังเลย เพราะใกล้กลับสถานที่แลกเงิน ที่บริษัท K.S.T ราคาค่ารถ ไปกลับคนละ 750 บาท ออกเดินทาง 9:00 และกลับเวลา 16:00น.(เวลามาเลเซีย) พวกเราเราจึงตัดสินใจจองรร.ขากลับเพราะถึงดึกๆแน่ๆ เลยได้รร.ราคาประหยัดๆคืนละ 290 บาท ชื่อคาเธ่ย์ เกส์ทเฮ้าท์ใกล้บริษัทรถตู้KST


เสร็จกิจธุระเเลกเงินและจองรถ แพลนต่อไปคือการไปสวนสาธารณะนั่งกระเช้าตามริวิวอื่นๆ แต่โชคไม่ดีที่พวกเราไปตอนที่เขาปิดปรับปรุง ต้องขอขอบคุณพี่ๆที่คาเธ่ย์ที่บอกพวกเราก่อนไป แพลนต่อไปเลยการเป็นการตะเวนกิน กิน แล้วก็กิน 

โดยรวมอร่อยทุกอย่าง โดยเฉพาะไก่ทอดหาดใหญ่ และเต้าคั่ว เป็นอาหารจานเดียวแบบปักษ์ใต้อีกอย่างหนึ่ง รสชาติดีทุกอย่าง ตลาดที่เราไปเดินกินอาหารช่วงกลางคืนจะอยู่ข้างตลาดกิมหยงและตลาดโต้รุ่งข้างเซนทรัลหาดใหญ่ หลังจากอิ่มแล้ว ก็เดินทางกลับที่พัก เดินเลยที่พักไปหน่อยจะมีวัดถาวรวรารามสวยงามมากและเงียบสงบแม้ใกล้จะปิดแล้ว แต่หลวงพี่ก็มาเปิดให้พวกเราได้เข้าไปดูความงามด้านในและมองวิวเมืองหาดใหญ่ คุ้มค่าจริงๆ

หลักจากชื่นชมความงามกันได้ซักพักก็ถึงเวลากลับไปชาร์ทพลังที่โรงแรม

เตรียมออกเดินทางไปมาเล พรุ่งนี้
.

.
♥ พร้อมเตรียมพับขากางเกงไปกับพวกเรารึยังคะ 
ขอบคุณที่แวะเวียนเข้ามาอ่านนะคะ  
.
♫ ♬ * เพียงการเดินทางเพียงหนึ่งสัปดาห์ หนึ่งเดือน หนึ่งปี มันมีความหมาย ทำให้เติบโตเรียนรู้เข้าใจได้มากกว่า การเดินทางของฉันและเธอคือการเรียนรู้ การเรียนรู้ของเราสองคนคือความเข้าใจ เธอเข้าใจและฉันเข้าใจก็ทำให้เรามั่นใจ♪ ♩ 
#HYPNjourneyMPT

.

เช้านี้เรา Check out ออกกันตอน 7โมงเช้า เพื่อไปหาอะไรรองท้องก่อนออกเดินทาง ที่ข้างตลาดกิมหยงที่เดิม พวกเราเอาฤกษ์เอาชัยโดยการใส่บาตรกับหลวงพี่ที่หน้าตลาด ขอย้ำว่าใครใส่บาตรพระที่นี่ใส่ของในบาตรเสร็จปุ๊บให้รีบนั่งลงไปกรวดน้ำเลยนะคะ เพราะท่านจะสวดแบบ รีมิกซ์รวดเร็วมาก หลังจากเอาฤกษ์กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ตรงไปยังร้านโจ๊กข้างตลาดเพื่อเติมพลังก่อนเดินไปยังบริษัทรถตู้

หลังจากจ่ายตังค์เรียบร้อยแล้ว เหลือบดูนาฬิกา เพิ่งจะ 7:40เอง พวกเราจึงไปของีบและชาร์ทแบตที่ร้านแมค ที่ห้างเซนทรัล ชาร์ทแบตเต็มที่ 

เวลา 8:50 เราจึงเตรียมออกไปยังบริษัทรถตู้ 
ข้อแนะนำสำหรับเพื่อนๆนักเดินทาง**
ควรจะซื้ออะไรรองท้องมื้อกลางวันด้วย เพราะการเดินทางยาวนานเหลือเกินและถ้าเกิดเหตุการณ์ที่พวกเราจะเจอต่อไปนี้ 555 ตุนเถอะค่ะ นิดหน่อยก็ยังดี
9:00 รถตู้มาจอดให้พวกเราขึ้นพร้อมออกเดินทาง การเดินทางวันนี้มีเพื่อนร่วมเดินทางเป็นคนไทยรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเราพี่คนขับเป็นหนุ่มวัยรุ่นหน้าแขก (แขกมากด้วย) เป็นพลขับของวันนี้ รถเริ่มออกเดินทางไปเรื่อยๆผ่านสองข้างทางที่เต็มไปด้วยยางพารา

บรรยากาศบนรถเงียบมากอาจเป็นเพราะระยะทางและควางง่วง เราก็เผลอหลับไปหลายงีบเหมือนกัน ตื่นขึ้นมาก็ยังไม่ถึงด่านซักที ถนนก็เริ่มจาก4เลนเป็น2เลน และก็แคบลงเรื่อยๆ มองซ้ายขวาก็ยังไม่เห็นป้ายด่านสะเดาตามรีวิวซักที เริ่มงงและกลัวๆ ขับเข้าไปลึกไปอีก ก็เจอด่านตำรวจไทยโบก ขอตรวจรถตรวจพาสปอร์ด และเหมือนจะไม่มีวี่แววว่าจะให้รถพวกเราผ่านไปได้ง่ายๆ จนพี่คนขับต้องลงไปคุยอะไรไม่รู้กับคุณตำรวจอยู่นานสองนาน และเริ่มมองหน้ากันว่า นี่พวกเรามาแบบผิดกฎหมายหรอว๊ะเนี้ย ซักพักก็ผ่านพ้นด่านคุณตำรวจมาได้ ขับรถไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็มาถึงด่านตรวจข้ามแดน ตม.บ้านประกอบ

(อ้าวว..ในริวิวอื่นเขาไปด่านสะเดากันนิ แล้วไมเรามาตรงนี้ได้) 

พี่คนขับบอกแค่ว่า ด่านสะเดาตำรวจจะตรวจรถเลยต้องมาด่านประกอบ เอิ่ม ตำรวจอีกแล้วครัช อีน้องใจบ่ดีแล้วนะ อย่างกับทำผิดกฎหมาย ด่านบ้านประกอบดูเงียบเหงาและมีแค่ทีมพวกเราที่มาทำเรื่องผ่านแดน

พอทำเรื่องประทับตราผ่านไปได้ก็ขึ้นรถ ขับต่อไปอีกซัก  1 กิโลเมตรก็มาถึงด่านมาเลเซีย 
ที่ชื่อว่า ด่านโกตาบุตรา(KOTA PUTRA) เมืองปาดังเตอรับ มาเลเซีย

ก็เงียบเหงาอีกเช่นกันแต่เจ้าหน้าที่ก็ยิ้มแย้มอยู่บ้างเล็กน้อย และเราก็ผ่านเข้ามายังฝั่งมาเลเป็นที่เรียบร้อย สัญญาณเนตก็หายปั๊บเลย 


ออกจากด่านไปได้ซักพักรถตู้ก็ชะลอ พี่คนขับหันมายิ้มฟันขาวบอกว่า รอก่อนนะน้องข้างหน้ามีด่านตำรวจ

(เอาอีกแล้วค่ะ เจอด่านแล้วยังไง..

พวกเราจะโดนจับหรอ ม่ายน้า นั่งเหงื่อตกกันอยู่นานสองนาน ) 

พี่คนขับคนเดิมหันมายิ้มแล้วบอกว่า

"ลุยเลยนะน้อง..ไม่รอแล้วเสียเวลา"  ป่ะพี่ไปเลย..ลุยเป็นลุย และก็โดนโบกจากตำรวจมาเลจริงๆ พี่คนขับลงไปเคลียร์ๆพูดอะไรไม่รู้ และก็ควักแบงค์ 100 RM ยื่นให้ตำรวจไปพอได้เงินปุ๊บตำรวจก็ขับรถไปเลย ...เอิ่มมตามนั้นนะ รอดแล้วค่ะ
จากนั้นพวกเราก็มุ่งหน้าไปตามเส้นทางต่อไปอีกซัก 2 ชั่วโมง สองข้างทางมีทั้งภูเขา ต้นปาล์ม และทางรถไฟเท่านั้น

ซักพักเราก็เจอสะพานตามที่คนอื่นๆรีวิวว่านี่คือสะพานปีนัง (Penang Bridge) เป็นสะพานข้ามเกาะปีนังแห่งแรกเชื่อมต่อระหว่างเกาะปีนังและเมือง Butterworth

ยาวจริงๆ สองข้างทางมองเห็นน้ำทะเลสวยมาก พอลงจากสะพานปุ๊บเราก็ถึงปีนังปั๊บทันที
พี่รถตู้ใจดีพาเรามาส่งถึงหน้าเกสเฮ้าท์ ใครจะลงตรงไหนก็สามารถบอกพี่คนขับได้ ที่พักของเราตั้งอยู่บนถนน LoveLane 

มีชื่อว่า Red Inn 55 จากการจองผ่านBooking.com 2 คืนในราคา 144 RM ค่ามัดจำกุญแจอีก 50 RM 


ในRed ไม่มีคนไทยมาพักเลยในช่วงนี้อาจจะไม่ใช่เทศกาลวันหยุดของไทยเรา เพื่อนร่วมเกสเฮ้าท์จึงมีแค่ จีน อังกฤษ อเมริกา และชาติอื่นๆ ภาษาอังกฤษงูๆปลาๆของเราจึงเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้ .....

ภายในห้องเป็นเตียง 2 ชั้น มีแอร์ และมีไฟที่หัวนอนทุกเตียง เกสเฮ้าท์นี้เป็นห้องน้ำร่วมแต่มีหลายห้องไม่ต้องแย่งกันใช้ เพียงพอ สะอาด ถือว่าโดยรวมดีเลยหล่ะ  

ส่วนโต๊ะนั่งเล่น นั่งกินBreakfast อยู่ทางด้านล่างบริการตัวเอง อบอุ่นมากกับการมาอยู่นี้ ทุกคนต่างทักทายกันอย่างเหมือนคนที่อยู่บ้านเดียวกัน แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของชาติตัวเองกันอย่างสนุกสนาน อันไหนฟังไม่ออกก็ Oh Sorry I don’t know พูดบ่อยมาก 555 ได้เพื่อนร่วมบ้านดีทุกคนเลย ปลื้มมม
.

.
วันนี้เดินทางกันมาทั้งวัน พวกเราของีบก่อนนะคะ°•★ •´¨`*:•.
ไว้เดี๋ยวจะกลับมาเล่าการเดินทางของพวกเราต่อไปนะคะ..

สวัสดีตอนเย็นค่า ...

จริงๆก็หมดแรงแหละ แต่ไม่อยากให้เวลามันหมดไปเสียเปล่าๆ

ตอนเย็นเราเริ่มตัดสินใจจะออกไปหาของกินพื้นถิ่น รวมถึงไปดูทะเลของปีนังด้วย เราจึงมุ่งหน้าจากโรงแรมของเราด้วยรถบัส ไปยัง สถานที่ที่ชื่อว่าห้าง Gurney Plaza เพื่อเดินเล่นรอให้ตลาดของกินตอนเย็น Gurney Drive เปิดกันเสียก่อน พอใกล้ได้เวลา เราก็เดินเรียบห้างไปยังทะเลปีนังเพื่อดูวิว รอให้ท้องหิวกันเสียก่อน 

น้ำลงพอดีเลย... ว้าาาา 

แดดร่มลมตกแล้วค่ะทุกคน ท้องร้องแล้ว ตลาดก็เริ่มตั้งกันแล้ว การมาที่ Gurney Drive

เมนูที่มาก็ต้องกิน ก็มีหลักๆเช่น ...

ด่ะ...เดี๋ยวนะ....

สเต๊ะนี่ บ้านเราไม่มีรึไง ห๊ะ!!  ช้าก่อนสหาย..มันไม่เหมือนกันนะตัว

ลองกินดูก่อนแล้วจะได้รู้ว่าของบ้านเราอร่อยกว่าเยอะ ฮ่าาา

ฟังไม่ผิดหรอกทุกคน มันไม่อร่อยจริงๆ และอีกเมนูที่ตามหนังสือเดินทางแนะนำนั้นก็คือ

โรจัก Rojak.... ????

อิหยังเนี้ยยย แด๊งแดง... มันไม่เผ็ดนนะทุกคน มันเหมือนน้ำปลาหวานบ้านเราอ่ะ 

โรจักก็คือสลัดผลไม้แบบมาเลย์ ใส่ผัก ผลไม้ และของทอดได้ และก็ราดน้ำหวานๆนั่นเอง

และอีกเมนูแนะนำก็คืือ ลักซา ก๋วยเตี๋ยวที่มีรสชาดคล้าย แกงส้ม + ก๋วยจั๊บญวณ บ้านเรา 

สรุปว่าเมนูRecommend เราก็ลองกันหมดสรุปว่า

ไม่รอดจ้าาาาาา..เลยต้องสั่ง หอยทอดมากินแทน วงวารตัวเองเหมือนกัน ฮ่่าาา

...เมื่อกินกันเสร็จเรียบร้อย ด้วยแถวเน้อยู่ห่างจากโรงแรมเราพอสมควรเลยตัดสินใจว่ากลับกันดีกว่า ...พอลงจากรถบัสหน้าถนนทางเข้าโรงแรม พวกเรามองหน้ากันตาปริบๆเป็นการบอกว่า...ที่กินมะกี้มันไม่อิ่มเลยอ่ะ เลยตัดสินใจเดินหาของกินกันต่อบริเวณแถวๆนั้น 

ทันได้นั้น............

เราก็พบกับร้านเน้ OMG .. นี่มันสวรรค์ของพวกเราชัดๆ

ลูกชิ้นนนนนนนนนนนนน รอดตายแล้วค่ะทุกคน

 โละก์ โละก์ (Lok Lok) อ่านออกเสียงว่ายังไงหง่ะ... เอาเป็นว่า มันเป็นอาหารเสียบไม้แล้วเอาไปลวกในหม้อน้ำร้อน และจิ้มกับน้ำจิ้มหลายรส ยืนๆลวกๆ จิ้มๆ กันตรงหน้าร้านกันไปเล้ย อยากลวกเพลินหล่ะ เดี๋ยวงบจะบานปลาย ส่วนราคาก็ไม่เท่ากันนะคะทุกคน มันขึ้นอยู่กับสีที่แต้มที่อยู๋ตรงด้ามจับ ว่าจะราคากี่บาท กินเสร็จก็ยื่นไม้ให้แม่ค้านับแล้วจ่ายเงินได้เลยจ้า

___ อิ่มแล้วนอนได้...ระหว่างเดินกลับที่พัก ก็มีStreet art เหล็กๆ ให้ได้แวะถ่ายรูปกันด้วย..

นอนก่อนนะคะ...พรุ่งนี้เจอกันค่า

Day 02 in Pennang  อรุณ..สวัสดิ์วันฝนตกค่ะทุกคนวันนี้เราจะไปขึ้นเขากันน้า ถกขากางเกงแล้วเดินกางร่มไปขึ้นรถบัสกันค่า

นึกว่าอยู่หมู่บ้านญี่ปุ่น หมอกลงด้วย สวยมาก 

รถขับผ่านหมู่บ้านไปได้ไม่นานก็มาถึงจุดหมายแล้วค่า 

Penang Hill หรือ Bukit Bendera อ่านยากอีกแล้ว

เป็นยอดเขาที่สุดและมองเห็นวิวได้ไกล จากด้านบนค่ะ 

การขึ้นไปยังยอดเขาต้องใช้รถราง เพียง 10 นาทีก็ถึงแล้วค่า 

ถ่ายจากในรถลาง นั่งหลังสุดเลย..

ฝนเริ่มหยุดตกแต่ แต่ หมอกเพียบเลย จะมองอะไรเห็นมั้ยเนี้ย

และก็เป็นอย่างที่คิดค่า...หมอกเพียบเลย พวกเราเหมือนอยู่บนเมฆเลย

เพราะฝนหยุดตกแล้ว แต่พวกเราก็ดูชื้นและหัวเปียกกันไปหมดเลยค่ะ

ด้านบนก็ไม่ใช่มีแค่จุดชมวิวนะคะ ยังมีนี่ ...

นี่นัมซานเทาว์เวอร์รึป่าว ..เรา วาปมาเกาหลีหรอเนี้ย ฮ่าาน่ารักดีค่า

หลังจากชื่นชมบรรยากาศกันพออิ่มแล้ว วันนี้เรามีภาระกิจสำคัญมากๆอีก 1 ภาระกิจ

นั่นก็คือ ตามล่า Street Art กันนั่นเองทุกคน เดินเท่านั้น เดินอย่างเดียวค่ะ

เมื่อมาถึงจัดสตาร์ทตามแผนที่การตามล่า Street Art 

(ทุกคนขอแผนที่ได้จากที่พักนะ..เราว่ามีทุกที่แน่นอน)

ตามแผนที่จะบอกว่า รูปนี้ๆ..อยู่ตรงไหนๆ เราก็กางแผนที่แล้วตามล่าได้เลย

ทุกคนต้องแน่ใจว่าเดินไหวนะ เพราะมันมีอยู่รอบเมืองปีนังเลย 

ซึ่งถ้าเดิน มันเหนื่อยมากกกก เหนื่อยจริงๆ 

และไม่มั่นใจว่าจะครบมั้ย หรือเจอมั้ยอีก

เพราะบางอันก็ซ่อนเก่ง.. อยู่ตามซอกตามมุม

ภาพแรกๆก็สนุกอยู่หรอก..พอหลังๆก็ประมาณว่าช่างมันเถอะ เออๆข้ามๆ ไรงี้ 

หากันพอสนุกน้าทุกคน...อย่าดันทุลัง เพราะมันเมื่อยมาก 

แต่พวกเราก็้เก็บๆเกือบครบแหละ เมื่อยขามาก

เยอะมาก... แต่บางภาพเราก็แอบผิดหวังนะ คนไปยืนพิง หรือยังไงไม่รู้หล่ะ

บางภาพก็เลือนลาง สีซีดจางไปตามกาลเวลา

แต่เราว่าเขาน่าจะวาดใหม่เรื่อยๆแหละ 

เดินไปเดินมา มาโผล่ท่าเรือเฉยเลย

หมดเวลาแล้วค่าทุกคน... วันนี้หมดพลังมาก

แต่ก็ถือว่าคุ้มเพราะพวกเราเก็บ Street Art กันเกือบหมดตามที่พวกเราได้ตั้งใจจะมาปีนังกัน

คุ้มมากค่า พรุ่งนี้พวกเราจะเดินทางกลับกันไปที่หาดใหญ่เพื่อรอขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพ

โดยตอนสายๆพี่คนขับรถตู้คนเดิมจะมารับเราถึงหน้าโรงแรมเลยหล่ะค่ะ

สะดวกสบายดีมากเลย 

ร่ำลาปีนังกันไว้แค่นี้ก่อนนะคะ

แล้วเจอกันใหม่นะคะทุกคน...

จะกลับแล้ว...ฝนก็ยังตกเหมือนเดิม

ชุ่มฉ่ำหัวใจดีจริงๆค่า

☁.｡.

อันยองฮาเซโย.. 

B.T. รายงานจากรัฐปีนัง มาเลเซียค่ะ 

#Alongwaygo

#รีวิวปีนัง

#รีวิวมาเลเซีย

#ปีนัง